เรื่องราวของ แนงมยอน หรือบะหมี่เย็น อาหารที่รสชาติเย็นสุดล้ำ มีความเป็นเกาหลีมากที่สุด อาหารที่เรียกได้ว่า อยู่คู่กับประเทศเกาหลีมานาน อย่างไม่น่าเชื่อ และได้มีวิวัฒนาการ มาโดยตลอด แต่ยังคงความเป็นต้นตำรับไว้ วันนี้หลายๆ คนที่ยังคง WFH และได้ทำอาหารหลากหลายเมนู เมนูแนงมยอนนี้ อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับเมืองไทย อากาศร้อนอยู่เรื่อย ๆ หาอาหารที่ไม่ใช่ของหวาน รับประทานดูกันได้ วันนี้บทความนี้จะมาเล่าเกี่ยวกับ เส้นทางของแนงมยอน ว่าเป็นมายังไง การวิวัฒนาการเป็นอย่างไร มีอยู่สองอย่างคือ ไม่อยากไปเกาหลี ก็อยากลุกขึ้นไปทำเมนูนี้ กินกันแน่นอน allyoucansearch
วัตถุดิบในการทำเส้นบักวีตใน แนงมยอน หรือบะหมี่เย็น
แนงมยอน ส่วนสำคัญส่วนแรกคือ เส้นที่ทำจากแป้งบักวีต มีลักษณะเป็นเมล็ด มาทำ นวดเป็นแป้ง และมาทำเป็นเส้น โดยอุปกรณ์ก็พัฒนามาตามสมัย โดยเจ้าบักวีตจะมีกลิ่นที่หอมเฉพาะตัว พอลองเคี้ยวไปเรื่อย ๆ รสหวานก็จะตามมา WBET69 โดยต้นตำรับที่นับว่าปังจริง ๆ คือ เส้นจากยอดอ่อนบักวีต 100% ไม่ผสมแป้งสาลี และเป็นธรรมดาที่แป้งที่นวดทิ้งไว้ แป้งอื่นๆ อาจจะห่อด้วยพลาสติกหุ้มไว้ได้ เพื่อกันลม
แต่แป้งบักวีตควรนวดเสร็จ แล้วเอาเครื่องทำเส้น และรีดเส้นลงหม้อต้มเลย ซึ่งในสมัยโบราณ และยังพบได้ในปัจจุบัน ก็ยังไม่ได้ใช้เครื่องระบบไฮโดรลิก ใช้แรงงานคนในการกดให้แป้ง ออกมาเป็นเส้น ละลงไปยังหม้อต้มเลยนั่นเอง
น้ำซุป แนงมยอน ตัวแปรความหลากหลาย ทางวัฒนธรรมของเกาหลี
บางที่ใช้หัวไชเท้า หอมแดง และผลไม้บางอย่าง รวมถึงการใส่บีทรูทลงไปนิดหน่อย เพื่อให้ได้สีชมพูอ่อน ๆ โดยสายมังสวิรัติชื่นชอบมาก น้ำซุปแบบนี้ช่วยขับรสชาติ ธัญพืชบริสุทธิ์จากเส้นบักวีต ได้ดีที่สุดอีกด้วย น้ำซุปประเภทที่นิยมชมชอบ ในปัจจุบันก็คือเนื้อส่วนน่อง ท้อง และสะโพกมาตุ๋นข้ามวัน ให้ได้รสชาติที่เข้มข้น เมื่อไปผสมผสานกับเส้นบักวีต จะได้ให้ยิ่งหอมหวาน มากยิ่งขึ้นเข้าไปอีก
ถ้าใส่น้ำส้มสายชูลงไปนิดนึง จะช่วยขับความหอมของเนื้อขึ้นมาก่อนเลย และตามด้วยความหอม ของบักวีตที่ไม่เคยหายไปไหน และอีกหลาย ๆ อย่างที่สามารถทำเป็นน้ำซุปได้ รวมถึงน้ำซุปลักษณะนี้ นอกจากดับร้อนแล้ว ช่วยให้แก้เมาค้างได้อีกด้วย
เครื่องโรยหน้า มงกุฎของ แนงมยอน
เครื่องโรยหน้า อาจจะขึ้นอยู่กับ ส่วนผสมหลักในน้ำซุปด้วย แต่เครื่องโรยหน้า ส่วนมากคงหนีไม่พ้น กิมจิ ผักต่างๆ รวมไปถึงไข่ เนื้อก็มี ด้วยเส้นบักวีต น้ำซุป เครื่องโรย ทำให้หลาย ๆ ร้านที่ขายแนงมยอน มีกฏ กติกา การรับประทานที่แตกต่างออกไป และสิ่งนี้ก็เป็นเอกลักษณ์ ของแต่ละร้านค้า แต่ละภูมิภาค ของร้านแนงมยอนที่กระจาย อยู่ทั่วเกาหลี มีนักวิจารณ์อาหารถึงกับพูดว่า แนงมยอนเป็นอาหาร
ที่ดูเหมือนไม่มีรสชาติ แต่ถ้าได้ลองกินแล้ว จะรู้ถึงรสชาติที่หาที่ไหนไม่ได้ และอาจจะทำให้ติด ไปจนถึงคลั่งการกิน แนงมยอนเลยทีเดียว
แนงมยอน ประวัติศาสตร์เกาหลี
แนงมยอน คือ
ถ้าสังเกตดี ๆ อาหารที่ได้รับความนิยมส่วนมาก จะมาจากต่างประเทศ และได้รับความนิยมในเกาหลี แต่แนงมยอนกลับกัน ถ้ามองในแง่ความหมาย ทางด้านประวัติศาสตร์ มันมีความความหมายมาก ๆ และอาจเป็นตัวแทนวัฒนธรรมของเกาหลีเลย ในบันทึกทางประวัติศาสตร์ ที่เริ่มกล่าวถึงแมงมยอนคือ ยุคกลางสมัยโชซอน ในหนังสือ “คเยกกจิบ” ของจางยุน มีชื่อเรื่องว่า จาจังแนงมยอน เป็นกลอนที่บรรยายเอาไว้ว่า
“นี่เป็นจาจังแนงมยอน อากาศร้อนมาก ๆ พอตักแนงมยอนเข้าปาก น้ำแข็งที่เหมือนหยก สีม่วงในน้ำซุปสีม่วงแดง เป็นก๋วยเตี๋ยวแบบเย็น “
หนึ่งในอาหาร ของพระราชาในอดีต
พระราชาโคจง พระราชาผู้รักแนงมยอน พระราชาโคจงทรงโปรด อาหารรสหวานมาก เหล่านางห้องเครื่อง ตอนที่ทำเครื่องโรยหน้าแนงมยอน ก็จะใส่เนื้อสาลี่ ทำเป็นรูปพระจันทร์ลงไปเยอะมาก โดยใช้ช้อนควักออกมา และต้องทำอย่างประณีต เพื่อให้ได้เนื้อสาลี่ที่เหมือนมี เกล็ดน้ำแข็งติดมาด้วย และยังเอาสาลี่ไปทำกิมจิขาว หรือเรียกว่า ทงชิมิสาลี่ ในชามเสวยของพระราชา ใส่เส้นบักวีตลงไปแล้ว ให้น้ำเนื้อสาลี่ที่ทำเป็นรูปพระจันทร์ วางลงไป โดยเรียงให้เหมือนดอกสาลี่ ที่กำลังเบ่งบาน วางเนื้อหั่นชิ้นบางๆ แนงมยอน วิธีทํา เป็นรูปกางเขน จากนั้นโรยไข่ซอยขาว และไข่ซอยแดง หลังจากนั้นใส่น้ำผึ้ง เพื่อเพิ่มความหวาน และโรยถั่วไพน์ปิดท้าย เมนูนี้นับเป็นสัญลักษณ์ของประวัติศาสตร์ยุคปลาย เกาหลีโบราณ หรือเรียกอีกอย่างว่า แนงมยอนของพระเจ้าโคจง ความห่วงใยต่อประเทศชาติ รวมอยู่ในแนงมยอน ของพระเจ้าโคจงทั้งหมด
Category:
ใส่ความเห็น